วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พระรอดหนองมนต์ จ.ลพบุรี

พระเครื่องชุดเบญจภาคี ถือเป็นสุดยอดของพระเครื่องที่หลายคนอยากเป็นเจ้าของ แม้ไม่ได้ทั้ง ๕ องค์ ขอให้มีเพียงหนึ่งก็พอ โดยเฉพาะ พระรอด ลำพูน กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูน ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก่อนที่จะมีการจัดพระชุดเบญจภาคีเสียอีก ด้วยความงดงามด้านพุทธศิลป์ มีขนาดกะทัดรัด และขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณสุดยอดและโดดเด่นทางนิรันตราย แคล้วคลาดจากเภทภัยทั้งปวง ทำให้เป็นที่แสวงหาของคนในวงการพระเครื่องเป็นอย่างมาก ค่านิยมอย่างต่ำๆ ต้องมีเงินแสน แต่ถ้าอยากได้พระสวยๆ ต้องมีเงินอยู่ในระดับหลักล้าน 

      ด้วยเหตุที่ค่านิยมที่สูง และอาจจะเรียกว่าแพงมาก มนุษย์เงินเดือน ปุถุชนคนกินข้าวแกงธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ คงต้องนั่งฝันเป็นแน่ มีลุ้นอยู่ ๒ วัน คือวันที่ ๑ และวันที่ ๑๖ ของเดือน เผื่อว่าจะถูกรางวัลใหญ่ เพื่อจะได้มีพระแพงมาครอบครองบ้าง ขณะที่นั่งรอลุ้นความโชคดีที่จะมาถึง วันนี้จึงอยากจะแนะนำ พระรอด อีกกรุหนึ่ง แม้ความงามจะอ่อนด้อยกว่าพระรอดลำพูน แต่เรื่องพุทธคุณนั้น พูดภาษาชาวบ้านว่า “ท้ากินตัวต่อตัว” ได้อย่างสบาย 

      พระรอด ที่ว่านี้คือ พระรอดหนองมนต์ วัดหนองมนต์ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี พระรอดหนองมนต์ แตกกรุประมาณ พ.ศ.๒๔๙๐ เนื่องจากมีการลักลอบขุดเจดีย์หาของมีค่าจากพวกมิจฉาชีพ ในการขุดหาของมีค่านั้น ปรากฏว่ามีพระเครื่องออกมาจากกรุด้วยคือ พระรอดหนองมนต์ ที่พบมี ๓ ขนาด คือ พิมพ์เล็ก พิมพ์กลาง และพิมพ์ใหญ่ โดยเฉพาะพระพิมพ์ใหญ่นั้น คนวงการพระเรียกว่า “พิมพ์เล็บเหยี่ยว” ขนาดองค์พระกว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร สูงประมาณ ๒-๒.๕ เซนติเมตร 

      ส่วนพิมพ์อื่นๆ พบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น พิมพ์พระร่วงนั่ง พิมพ์หลวงพ่อโต และพิมพ์เม็ดน้อยหน่า เป็นต้น แต่พระ ๓ พิมพ์นี้จะสับสนกับพระวัดสุพรรณ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร สถานที่พบ พระรอดหนองมนต์ คือ วัดหนองมนต์ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่ที่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี มีเจดีย์บรรจุพระไว้ ๒ เจดีย์ 

      ตามตำนานการสร้างพระและประสบการณ์ความขลังของพระรอดหนองมนต์ ในหนังสือ เครื่องรางของขลัง ของ อ.ประชุม กาญจนวัฒน์ ได้กล่าวไว้ว่า “มีสมภารผู้แก่กล้าวิชาอาคมของเมืองพิจิตรท่านหนึ่ง ท่านชอบการแข่งเรือ และเลี้ยงนกเขาเป็นอย่างมาก อยู่มาวันหนึ่ง ท่านลงมือทาน้ำมันยางเรือแข่งจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นมีเด็กมายุ่งกับเรือที่ทาสีน้ำมันยังไม่แห้ง ท่านจึงนำธนูมาเล็งขู่เด็กๆ ให้หนีไป แต่ลูกธนูกลับหลุดมือไปถูกเด็กคนหนึ่งในกลุ่มเข้า ท่านจึงต้องหนีจากพิจิตรมาอยู่ลพบุรี พร้อมด้วยถุงใหญ่ซึ่งบรรจุพระเนื้อตะกั่วจำนวนมาก ติดตัวลงมาด้วย โดยได้นำพระทั้งหมดมาฝังบรรจุกรุไว้ในเจดีย์ทั้ง ๒ องค์ทั้งหมด พุทธลักษณะ และ พุทธศิลป์ พระรอดหนองมนต์ เป็นพระประทับนั่งปางมารวิชัย บนฐานสี่เหลี่ยม ด้านบนปรากฏคล้ายมีเส้นประภามณฑลอยู่รอบเศียร 

      ทั้งนี้ มีผู้รู้ในวงการพระเครื่องท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า ...พบพระรอดหนองมนต์องค์ที่มีสภาพสวยงามชัดเจนมาก เส้นประภามณฑลนั้น แท้ที่จริงแล้วคือ เศียรพญานาค ตามแบบฉบับศิลปะลพบุรี ซึ่งผู้เขียนคิดว่าเป็นไปได้ แต่ก็ไม่เคยพบองค์จริงเลยสักครั้ง เอกลักษณ์ของพระรอดหนองมนต์ที่สำคัญคือ มีเพียง เนื้อตะกั่วสนิมแดง เพียงเนื้อเดียวเท่านั้น รวมทั้งสนิมแดงที่เกิดขึ้นคลุมองค์พระนั้น มักขึ้นเป็นจุดๆ เล็กๆ ชั้นต่อๆ กัน ไม่หนาเป็นแผ่นคลุมพระทั้งองค์ เหมือนพระเนื้อสนิมแดงกรุอื่นๆ ในการแตกกรุของพระรอดหนองมนต์นั้น ว่ากันว่ามีการให้กันเปล่าๆ ไม่มีราคาค่างวดอะไร จนกระทั่งเมื่อมีผู้นำไปใช้แล้วเกิดประสบการณ์เป็นที่เล่าขานมากมาย ผ่านมาประมาณ ๑๐ ปี หลังจากแตกกรุออกมา หรือ พ.ศ.๒๕๐๐ ทำให้ราคาขึ้นไปถึงองค์ละ ๒๕ บาท (สมัยนั้นถือว่าแพงมาก) 

      ต่อมามีทหารพลร่มท่านหนึ่งไปแสดงโดดร่มดิ่งพสุธาโชว์ในตัว จ.ลพบุรี ทหารพลร่มท่านนั้นโดดร่มลงมาแต่โชคร้ายร่มไม่กาง ตกลงสู่พื้นดิน ประชาชนที่ไปชมการโชว์ครั้งนั้นตกตะลึงกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ที่ต้องตะลึงยิ่งกว่าคือ ทหารพลร่มคนดังกล่าวไม่ได้รับแรงกระแทกใดๆ เลย แถมยังเดินได้เช่นเดียวกับทหารพลร่มคนอื่นๆ มารู้ภายหลังว่าทหารพลร่มคนดังกล่าวแขวน พระรอดหนองมนต์ เพียงองค์เดียวเท่านั้น และที่สำคัญคือ ท่านผู้นี้เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารลพบุรีด้วย แม้ว่า พระรอดหนองมนต์ จะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพุทธคุณด้านแคล้วคลาด รวมทั้งพุทธคุณด้านอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่สนามพระระดับท้องถิ่นถึงสนามพระเมืองหลวง ซึ่งผู้เขียนเองก็ได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับพุทธคุณในพระรอดหนองมนต์มาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน แต่ใครเลยจะคิดว่าค่านิยม หรือที่เรียกว่าราคาเช่าพระรอดหนองมนต์อยู่ในหลักพันถึงหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ถือเป็นพระที่มากด้วยอายุ และมากด้วยพุทธคุณ หรืออาจจะพูดได้ว่า “พระรอดหนองมนต์เป็นพระถูกดีแท้” ที่น่าสนใจ 

      ด้วยเหตุที่ปัจจุบันเป็นพระที่ได้รับความนิยมมาก อยู่ในประเภทพระเนื้อชินยอดนิยม จึงมีการปลอมแปลง ลอกเลียนแบบหลากหลายฝีมือกันมานานแล้ว ถ้าเป็น พระปลอม ฝีมือรุ่นเก่าๆ ไม่ว่า พิมพ์ หรือ สนิมพระ จะดูห่างจากของจริงค่อนข้างมาก สนิมที่เกาะพระปลอม จะไม่ใช่สนิมแดงที่เกิดขึ้นจริง ส่วนใหญ่จะใช้สีที่โป๊รถยนต์มาทาแทน ซึ่งถ้าเราใช้กล้องส่องดูก็จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ก็ใช่ว่าพระรอดหนองมนต์จะไม่มีการปลอมแปลง หรือลอกเลียนแบบที่ค่อนข้างดี คือเมื่อประมาณ ๑๐ ปีที่แล้ว มีนักปลอมพระกลุ่มหนึ่ง ปลอมพระประเภทเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงขึ้นมา ทำเนื้อพระได้ดีมาก จนเซียนน้อยเซียนใหญ่โดนเก๊กันทั่วเมือง 

      สาเหตุที่ทำให้บรรดาเซียนพระโดนเก๊พระชุดนี้ได้ง่าย ก็เพราะว่าคนที่ปลอมพระนั้นได้ใช้เนื้อพระที่เป็นเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงแท้ๆ ที่มีขนาดใหญ่ แต่ราคาค่านิยมไม่แพง มากดปั๊มพิมพ์พระขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีขนาดองค์พระที่เล็กกว่า แต่มีค่านิยมในราคาสูง พระรอดหนองมนต์ เป็นพระเนื้อชินตะกั่วอีกองค์หนึ่งที่โดนกดปั๊มพิมพ์ประเภทนี้เช่นกัน ด้วยเหตุที่คุณสมบัติของพระรอดหนองมนต์ที่กล่าวมาข้างต้น ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ หลายท่านที่อยากมีพระเครื่องไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ หากมีโอกาสนิมนต์ พระรอดหนองมนต์ ขึ้นคอสักองค์ รับรองว่าไม่ผิดหวังโดยเฉพาะเรื่องพุทธคุณ ที่ใครหลายคนมักพูดว่าพระเก่า พระดี พระแท้ ต้องเป็นพระแพง มีราคาค่างวดสูงๆ นั้น ผู้เขียนขอยืนยันว่ายังมีพระเก่า พระกรุ พระดีแท้ ที่มีราคาถูก ที่มีพุทธคุณเหมือนกันอยู่อีกจำนวนมาก โอกาสหน้าจะหามานำเสนออีก 


http://horoscope.thaiza.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B8%88-%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5/157168/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น